ประวัติความเป็นมา (History)
โรงเรียนสยามการเดินเรือ (Siam Maritime School) เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 โดยกลุ่มผู้บริหารในเครือของ บริษัท มารีนไทย กรุ๊ป จำกัด เริ่มต้นจากบริษัท เอ. แอนด์ มารีน (ไทย) จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2525 ซึ่งประกอบกิจการในการจำหน่ายพร้อมให้บริการด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการเดินเรือและสื่อสารต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนและให้บริการด้านความปลอดภัยของเรือและคนประจำเรือ มาเป็นเวลานานกว่า 35 ปี เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในทุกภาคส่วนทั้งในวงราชการและเอกชนชั้นนำของประเทศ
จากการที่กลุ่มผู้บริหารได้ประกอบกิจการในด้านนี้และได้คลุกคลีอยู่ในวงการพาณิชย์นาวีมาเป็นเวลานาน ทางผู้บริหารของกลุ่มบริษัทมารีนไทย กรุ๊ป ทราบว่า ปัจจุบันคนประจำเรือไทยส่วนใหญ่ยังขาดทักษะในด้านความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ทำให้ถูกมองว่าเป็นผู้มีมาตรฐานคุณภาพต่ำกว่าประเทศอื่น เป็นเหตุให้ไม่สามารถก้าวออกไปแข่งขันยังตลาดแรงงานระหว่างประเทศได้มากนัก แม้จะมีบางส่วนที่ออกไปทำงานกับบริษัทเรือต่างประเทศได้ แต่ก็ยังเป็นอัตราส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้เสียโอกาสที่จะประกอบอาชีพกับบริษัทต่างประเทศและนำรายได้เข้าประเทศเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้คณะผู้บริหารของบริษัทเกิดแรงบันดาลใจอยากที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพมาตรฐานของคนประจำเรือไทยทุกระดับชั้นให้มีคุณภาพมีความรู้ความสามารถเทียบเท่าหรือสูงกว่าระดับมาตรฐานสากล ให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ สามารถแข่งขันกับแรงงานในตลาดต่างประเทศได้ ทั้งยังเป็นการช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง จึงได้ร่วมกันจัดตั้งสถานศึกษาฝึกอบรมแห่งนี้ขึ้นเพื่อให้บริการทางด้านการศึกษาฝึกอบรมแก่ชาวเรือทุกระดับชั้นตลอดจนบุคคลอื่นผู้สนใจ อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่กำหนด และให้เป็นทางเลือกใหม่แก่บรรดาชาวเรือและผู้สนใจทั้งหลายที่ต้องการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ทางด้านนี้อย่างแท้จริง
วิสัยทัศน์ของโรงเรียนสยามการเดินเรือ
“Shall be one of the best maritime training schools in Thailand and Regional fully complied with international training standards”
“จะเป็นสถาบันฝึกอบรมชั้นนำและเป็นที่ยอมรับของประเทศและในภูมิภาค ที่ให้ความรู้ทางวิทยาการและประสบการณ์แก่คนประจำเรือและบุคคลทั่วไปอย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อสนับสนุนกิจการพาณิชย์นาวีของประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน”